ทำไมต้องใช้เครื่องกรองน้ำ ?

ชีวิตกับน้ำและความรู้เกี่ยวกับเครื่องกรองน้ำ


ชีวิตกับน้ำ น้ำมีความสำคัญต่อชีวิต และเป็นกุญแจสำคัญสำหรับการดำรงชีวิต โดย 2 ใน 3 ส่วน ของคนเรา ประกอบขึ้นจากน้ำ การทำงานทุกระบบในร่างกายประกอบขึ้นจากน้ำ (65-70 %ของน้ำหนัก)การทำงานทุกระบบในร่างกายจะต้องอาศัยปริมาณน้ำอย่างเพียงพอในการ รักษาสภาวะสมดุลย์ การทำงานการหล่อเลี้ยงเซลล์ต่าง ๆ ให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ในวันหนึ่ง ๆ ร่างกาย จะสูญเสียน้ำในประมาณ 2-3 ลิตร ทั้งทางปัสสาวะ เหงื่อ ลมหายใจ และอุจจาระ ดังนั้นจึงควรมีการดื่มน้ำทดแทนประมาณ 8-12 แก้วต่อวัน เพื่อทดแทนน้ำที่สูญเสียและเพื่อให้ชีวิตอยู่ได้ ทั้งนี้ เพราะน้ำดื่มมีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น *น้ำเป็นตัวหล่อลื่นสำหรับอวัยวะต่าง ๆ เช่น ไขข้อ *น้ำเป็นตัวนำอาหาร อากาศ ไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย *น้ำเป็นตัวนำ ของเสียออกจากร่างกาย *น้ำเป็นตัวควบคุมอุณหภูมิภายในร่างกาย

แต่น้ำที่คนเราใช้อุปโภคอยู่ทุกวันนี้มีความสะอาดเพียงพอหรือไม่ มีสิ่งเจือปนใดบ้างซึ่งสิ่งเหล่านี้ได้ถูกมองข้ามไปเพราะเรามักใช้ความไว้วางใจส่วนนี้กับการ ประปา เครื่องกรองน้ำ และน้ำดื่มบรรจุขวดแทนซึ่งคุณคิดว่าทางเลือกเหล่านั้นน่าเชื่อถือและไว้ใจได้ ท่านทราบหรือไม่ว่าหากเราดื่มน้ำที่ไม่สะอาดจะทำให้ ร่างกายของเราทำงานหนักขึ้น เช่น ไต และท่านทราบหรือไม่ว่าไตมีหน้าอย่างไร

การทำหน้าที่ของไต

  1. การกรอง (filtration) กรองน้ำและสารออกมาจากพลาสม่า
  2. การดูดกลับ (reabsorption) โดยเลือกเก็บสารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายกลับคืนเข้าสู่กระแสเลือด
  3. การขับถ่าย (secretion) โดยการขับสารบางอย่างออกจากกระแสเลือดเพิ่มเติมจากการกรอง

ดังนั้นหากร่างกายของเราได้รับน้ำที่มีสารหนัก หรือไม่สะอาดเพียงพอ ไตก็จะทำหน้าที่ในการกรองหนักขึ้น โดยเฉพาะสารหนักแขวนลอยต่าง ๆ ที่อยู่ในน้ำที่เรามองไม่เห็น เช่น สารตะกั่ว คอปเปอร์ออกไซด์ (สนิมคอปเปอร์) หรือแม้แต่เชื้อโรคต่าง ๆ ฯลฯ โดยเราสามารถทดสอบน้ำต่าง ๆ ที่จะดื่มโดยวิธีการ แยกธาตุด้วยไฟฟ้าของน้ำ เราก็จะทราบว่าน้ำที่เราดื่มเข้าไปมีสารอะไรเจือปนอยู่บ้าง

ทางเลือกในการดื่มน้ำ

  1. น้ำฝน
    • ขณะนี้น้ำฝนเป็นที่ตกผ่านชั้นบรรยากาศที่เต็มไปด้วยมลพิษ ดังนั้น น้ำฝนที่สะอาดจจึงกลายเป็นฝน กรดไปแล้ว
    • หลังคาที่รองรับน้ำฝน และภาชนะที่กักเก็บน้ำฝน บางครั้งมีความสกปรกจึงทำให้น้ำฝนนั้นสกปรกได้
  2. น้ำบ่อ และน้ำบาดาลการต้มน้ำดื่ม คุณเคยทราบหรือไม่ว่าคลอรีนในน้ำเมื่อรวมตัวกับซากพืชซากสัตว์ และเมื่อได้รับความร้อน จากการต้ม จะทำ ให้เกิดสารคลอโรฟอร์ม และสารไตรฮาโลมีเทน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งได้
    • เป็นน้ำที่ผ่านชั้นดินหินทราย เป็นการกรองทางธรรมชาติที่สามารถกรองสิ่งสกปรกออกไปได้ส่วนหนึ่ง
    • แต่ปัจจุบันชั้นดินหินทรายเหล่านั้นไม่สามารถกรองสารตะกั่ว ยาปราบศัตรูพืช รวมทั้งสารเคมีต่าง ๆ ทีปนเปื้อนอยู่ในดินนั้นได้
  3. การกรองน้ำ ปัจจุบันมีคนจำนวนมากหันมาพึ่งเครื่องกรองน้ำ เนื่องจากผู้บริโภค ให้ความสนใจกับสุขภาพ อนามัยมากขึ้นตามสภาพเศรษฐกิจและ 
    ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

ปัจจุบันคนจำนวนมากนิยมใช้เครื่องกรองน้ำเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากสามารถกรองน้ำได้มีประสิทธิภาพและยังสามารถควบคุมความสะอาดของน้ำได้ซึ่งเครื่องกรองน้ำในปัจจุบันมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด ซึ่งในแต่ละชนิดมีกระบวนการกรองแตกต่างกันออกไป โดยการเลือกสามารถเลือกได้ตามความต้องการ ในการใช้งาน มีตั้งแต่การกรองน้ำที่สะอาดที่สุด จนถึงแบบธรรมดา โดยในที่นี้จะขออธิบายระบบทั่วไปที่เป็นสากลและใช้กันอยู่ทั่วโลก

  • การกรองระบบ Reverse Osmosis (RO.) ซึ่งเป็นวิธีการกรองน้ำได้สะอาดที่สุด แต่ราคาจะสูงกว่าระบบอื่น ๆ และควรติดตั้งให้ถูกวิธีเพราะจะต้องมีการต่อน้ำทิ้ง เนื่องจากไส้กรองหลักคือ Membrane Filter มีความละเอียดมากถึง 0.0001 ไมครอน ทำให้จำเป็นต้องมีแรงดันน้ำมากพอสมควร และน้ำบางส่วนที่ไม่สามารถผ่าน Membrane ได้ก็จะถูกระบายออก และมีไส้กรองต่าง ๆ เพื่อยืดอายุการใช้งานของ Membrane Filter และไส้กรอง แต่ละชนิดยังทำหน้าที่แตกต่างกัน

ขั้นตอนที่ 1 ไส้กรอง Sediment Filter กรองฝุ่นขนาด 5 ไมครอน จะดักฝุ่นผงละเอียดที่ปนมากับน้ำ 
ขั้นตอนที่ 2 ไส้กรอง Pre-Carbon Filter มีหน้าที่กำจัดคลอรีน, กลิ่น และสี ในขณะน้ำไหลผ่าน 
ขี้นตอนที่ 3 ไส้กรอง Reverse Osmosis Membrane Filter ซึ่งมีความละเอียด 0.0001 ไมครอน สามารถ

กรองพิษต่าง ๆ ที่ปนมากับน้ำ เช่น สารเคมี สารตะกั่ว ปรอท ยาฆ่าแมลง สารอินทรีย์ แบคทีเรีย ไวรัส สารก่อมะเร็งและสารละลายได้ถึง 98%

ขั้นตอนที่ 4 ไส้กรอง Post-Carbon Filter เป็นขั้นตอนสุดท้าย ซึ่งมีหน้าที่ปรุงแต่งรสของน้ำ และขจัดกลิ่น สีก๊าซที่ยังเหลือในน้ำและปรับสภาพของน้ำให้เป็น
ธรรมชาติ

 
  • การกรองแบบ Ultrafiltration (UF.) เป็นการกรองน้ำที่สะอาดรองมาจากระบบ RO. สามารถดื่มได้อย่างมั่นใจและยังมีประสิทธิภาพการกำจัดเชื้อ จุลินทรีย์ที่มีขนาดเล็กมาก โดยมีความละเอียดของไส้กรอง Ultrafiltration Membrane 0.01 ไมครอน ทำให้ได้น้ำบริสุทธิ์ ที่อุดมไปด้วยวิตามินและ แร่ธาตุต่าง ๆ ส่วนขั้นตอนต่าง ๆ จะเหมือนกับระบบ Reverse Osmosis (RO.) แต่จะมีข้อแตกต่างในขั้นตอนที่ 3 ซึ่งจะเปลี่ยนไส้กรองจากไส้กรองRO.Membrane เป็นไส้กรอง Ultrafiltration Membrane (UF.) ซึ่งมีความละเอียด 0.01 ไมครอน การใช้ระบบการกรองระบบ UF. การติดตั้งจะง่าย กว่าแบบระบบ RO. โดยสามารถติดตั้งได้เองสะดวก
  • การกรองแบบธรรมดา (Conventional Filtration) เป็นการกรองน้ำที่สะอาดกว่าการนำน้ำประปามาบริโภคโดยตรงในระดับหนึ่ง ซึ่งส่วนใหญ่ ขั้นตอนการกรองจะไม่มีไส้กรองหลักคือ Membraneเพื่อความมั่นใจว่าน้ำที่ผ่านการกรองระบบนี้บางรุ่นจะเพิ่มอุลตร้าไวโอเล็ต เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีอีก ขั้นตอนหนึ่ง และราคาถูก หรือน้ำที่มีพวกหินปูน ผสมอยู่มาก เช่นน้ำบาดาล

ดังนั้นการเลือกเครื่องกรองน้ำเป็นสิ่งที่สำคัญเพื่อให้น้ำที่สะอาด และตรงต่อการใช้งานรวมถึงการดีไซน์เพื่อให้เหมาะสมกับบ้านหรือพื้นที่ที่ติดตั้งและเพื่อสุขภาพ ที่ดีควรใส่ใจเกี่ยวกับเรื่องน้ำ เพราะน้ำเป็นสิ่งจำเป็นที่สุดสำหรับร่างกาย ควรให้ร่างกายของเราได้รับแต่น้ำที่สะอาด เพื่อยืดอายุอวัยวะของเราไม่ให้ทำงานหนัก
เกินความจำเป็น รวมถึงการดูแลรักษาเครื่องกรองน้ำโดยจำเป็นจะต้องเปลี่ยนไส้กรอง หรือล้างสารกรองอยู่เป็นประจำ เพื่อให้ได้น้ำที่สะอาดอยู่ตลอดเวลา

วิธีการเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำ

  1. สภาพน้ำที่ใช้อยู่ เช่น น้ำประปา หรือน้ำบาดาล หากเป็นน้ำประปาทั่วไป ควรใช้แบบ RO. หรือ UF. เพราะออกแบบไส้กรองกรองต่าง ๆ มาสำหรับใช้ กับน้ำประปาโดยตรง แต่หากเป็นน้ำบาดาล ควรปรึกษาผู้ชำนาญการเพื่อทำการวิเคราะห์สภาพน้ำว่ามีความเป็นกรด หรือด่างหรือไม่หรือมีหินปูนมาก น้อยแค่ไหน เพื่อจะได้เพิ่มสารกรอง หรือไส้กรอง จำพวกเรซิน ลงไปโดยเราก็จะได้เครื่องกรองน้ำที่ใช้กับสภาพน้ำนั้น ๆ ได้จริง 

  2. ราคา หากมีความต้องการเครื่องน้ำอย่างดีที่สุด ต้องเป็นแบบ RO. เพราะสะอาดที่สุดมั่นใจได้ 100% รองลงมาราคาย่อมเยาหน่อยก็เป็นแบบ UFนอกเหนือจากนี้ไม่อยากแนะนำเนื่องจากอาจจะได้คุณภาพน้ำที่ไม่คุ้มค่าเงินแล้วยังไม่จำเป็นหรือเกินความจำเป็น 

  3. คุณภาพของเครื่องที่ใช้ร่วมกับระบบการกรองต่าง ๆ เนื่องจากปัจจุบัน ได้มีการออกแบบเพิ่มเติมความสะดวกต่าง ๆ เช่น เป็นระบบน้ำร้อนหรือน้ำเย็น ต้องดูว่าถังน้ำร้อน หรือน้ำเย็น เป็นสเตนเลสหรือไม่ หรือมีการใช้ตะกั่วเป็นการเชื่อมรอยต่อหรือไม่ เพราะหากใช้สารตะกั่วหรือผสมตะกัวในถังน้ำร้อน หรือน้ำเย็น อาจทำให้เราได้รับสารตะกั่วเข้าร่างกายตลอดเวลา จะเป็นผลให้การพัฒนการทางสมองต่าง ๆ ช้าไปด้วย โดยเฉพาะกับเด็ก 

  4. การรับประกันต่าง ๆ โดยปกติระบบการกรองน้ำจะไม่มีการรับประกัน เนื่องจากขึ้นอยู่กับสภาพน้ำในแต่ละที่ 

  5. รูปทรงต่าง ๆ เพื่อให้เหมาะกับสภาพการใช้งานในบ้าน ซึ่งปัจจุบันมีการออกแบบใหม่ ๆ เพื่อให้สวยงาม และเข้ากับทุกพื้นที่ 

  6. การบริการหลังการขาย มีการบริการเปลี่ยนไส้กรอง หรือมีไส้กรองขายให้หลังจากซื้อเครื่องแล้วหรือไม่หากต้องการความสะดวกสบายก็ใช้บริการกับบริษัทฯ ต่าง ๆ ที่ให้บริการถึงที่บ้านและมีการเช็คคุณภาพน้ำให้ทุกครั้งที่มีการเปลียนไส้กรอง หรือเข้าไปบริการ 

  7. ไส้กรองที่ใช้กับเครื่อง ๆ มีคุณภาพหรือไม่ ให้ดูสเป็ค ต่าง ๆ ที่ติดอยู่บนไส้กรอง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะได้ไส้กรองที่มีคุณภาพ เนื่องจากมี่หลาย บริษัทฯ นำไส้กรองที่คุณภาพต่ำกว่าราคาที่เราจะซื้อมาให้บริการ ดังนั้นหากใช้ไปสักระยะหนึ่งก็จะมีปัญหาเกิดขึ้น เช่น ตันเร็ว ให้เช็คคุณภาพน้ำว่ามี สารแขวนลอยมากน้อยหรือไม่ หากคุณภาพน้ำสารแขวนลอยปกติแสดงว่าไส้กรองนั้น ๆ คุณภาพต่ำ ไม่ต้องไปใช้บริการ โดยไส้กรองต่าง ๆ จะมี 2 ลักษณะถังเก็นน้ำ ร้อนและน้ำเย็นควรเป็นสเตนเลสแท้ ไม่เป็นสนิม หรือไม่ใช้ตะกั่ว
    • เป็นสารกรอง โดยปกติจะใช้กับรุ่นเก่า ๆ หรือที่เป็นเครื่องกรองน้ำชนิดเติมสารกรอง เหมือนกับ ใช้กับอุตสาหกรรมโดยจะต้องล้างสารกรอง เป็นประจำ
    • เป็นไส้กรองชนิดที่ต้องเปลี่ยน ซึ่งสะดวกสบายกว่าแบบแรก จะเป็นไส้กรองชนิดแท่ง 

เปรียบเทียบการใช้เครื่องกรองน้ำ และการซื้อน้ำ

  1. ตัวอย่างการใช้น้ำ 50 ถัง/เดือน หรือประมาณ 937.5 ลิตร
  2. ซื้อน้ำดื่มระบบ RO.ราคาถังละ 40 บาท ค่าใช้จ่ายในการซื้อน้ำถังเท่ากับ 50 X 40 = 2,000 บาทต่อเดือน
  3. ใช้เครื่องกรองน้ำระบบ RO. จ่ายน้ำร้อน-เย็น (เปรียบเทียบ 2 ปี)
รายการ จำนวน ราคา/หน่วย (บาท) รวมค่าใช้จ่าย (ต่อ 2 ปี) รวมค่าใช้จ่าย (ต่อเดือน)
ค่าเครื่อง (ประมาณ)

1

29,900

29,900

1,246

ค่าเปลี่ยนไส้กรอง

7

6,000

6,000

250

ค่าน้ำประปา (ประมาณลิตรละ0.016 บาท)เป็นอัตราสูงสุด

938

0.016

360

15

ค่าไฟฟ้า (หน่วย)

25

2.98

1,788

75

รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด

38,048

1,585




  • ตารางเปรียบเทียบการซื้อน้ำดื่ม กับการใช้ เครื่องกรองน้ำ

ที่มาของน้ำดื่ม

ค่าใช้จ่าย

เปรียบเทียบการประหยัดกับการซื้อน้ำถัง

ต่อเดือน

ต่อปี

ต่อ 2 ปี

ต่อ 5 ปี

ต่อเดือน

ต่อปี

ต่อ 2 ปี

ต่อ 5 ปี

1.ซื้อน้ำถัง

2,000

24,000

48,000

120,000

 

 

 

 

2.ใข้เครื่องกรองน้ำระบบRO

1,585

19,024

38,048

95,120

415

4,976

9,952

24,880

ไม่ต้องรอการสั่งน้ำถัง หรือเดินไปกดน้ำเอง

  1. สิ่งที่ได้จากการติดตั้งเครื่องกรองน้ำเอง
  2. ไม่เปลืองเนื้อที่ในการเก็บถังและออกแรงยกถังน้ำ
  3. มั่นใจในความสะอาดได้มากกว่า เพราะการบำรุงรักษาเราเป็นผู้ดูแลเอง หรือมีช่างบริการผู้ชำนาญการดูแล
  4. ประหยัดกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับการสั่งน้ำถัง หรือไปกดเอง
  5. รูปแบบสวยงามเหมาะกับพื้นที่ สามารถเป็นเฟอร์นิเจอร์ได้

  • SD RO75-F.jpg
    ประวัติความเป็นมาของเครื่องกรองน้ำระบบอาร์โอ (Reverse Osmosis) อาร์โอ (Reverse Osmosis) เกิดจากการวิจัยของประเทศสหรัฐอเมริกา ร่วมกับเยอรมนี ในปี ค.ศ.1950 ผู้วิจัยสำเร็จคือ Dr.Sidne...

  • 253221-P46VUQ-706.jpg
    น้ำได้ถูกเรียกขานว่าเป็นยาอายุวัฒนะตั้งแต่สมัยโบราณ ทางการแพทย์แนะนำให้ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว น้ำทำหน้าที่กำจัดสารพิษและของเสียออกจากร่างกาย นำส่งสารอาหารและออกซิเจนให้เ...
Visitors: 126,957